Background.MyEm0.Com
Background.MyEm0.Com

คณะครุศาสตร์

เรื่องน่ารู้รอบตัว

ยินดีกับพี่บัณฑิต







แผนการสอนที่ 1
วิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
หน่วยที่ 3: Family เรื่อง Kaew’s family tree
ผู้สอน นางสาวรัชฎาภรณ์ พานจันทร์ เวลา 1 ชั่วโมง

1. สาระสำคัญ
การบูรณาการทักษะการสื่อสารเป็นการบรูณาการทางภาษาด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน มีความสำคัญในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Kaew’s family treeซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวในครอบครัว เกี่ยวกับการเรียงลำดับญาติพี่น้องในครอบครัว การสอบถามข้อมูลส่วนตัวการถามและตอบข้อมูลสวนตัวของผู้อื่น นอกจากจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมเจ้าของภาษาแล้วยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมในชีวิตประจำวันด้วย
2. จุดประสงค์การเรียน
1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำศัพท์เรื่อง Kaew’s family treeได้
2. นักเรียนสามารถอ่านเรื่อง Kaew’s family treeแล้วเติมคำในเนื้อเรื่องได้
3 นักเรียนสามารถเขียนบรรยายเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเองได้
3. เนื้อหา (Content)
3.1 คำศัพท์เกี่ยวกับบทอ่านเรื่อง Kaew’s family tree
mother, father , brother , sister ,grandfather, grandmother ,
uncle, aunt , cousin, people, family, paint

3.2 บทอ่านเรื่อง Kaew’s family tree
My name is Keaw. There are 11 people in my family. They are Khun Poo Ming or my grandfather, Khun Yaa Noi or my grandmother. Khun Por is my father and Khun Mae is my mother. I have an uncle, Khun Loong Som, and an aunt, Khun Paa Dang. I have one sister. Her name is Pii Kung. I also have one brother. His name is Pii korn. I have two cousins, Pii Toh and Nong Lek. I also have one dog, Toob. I like to paint T-shirts.
นำมาจากหนังสือ : Project : Play & Learn Student’s Book. หน้า 2 และ หน้า 3

4. กิจกรรมการเรียนการสอน
โดยวิธีการสอนแบบ 4MAT หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อตอบสนองความแตกต่างหลากหลายรูปแบบการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดการเรียนรู้จากการสังเกตไตร่ตรองเห็นคุณค่าและความสำคัญของสิ่งที่เรียนการสร้างความคิดรวบยอด การปฏิบัติและการเชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตจริงและการรับรู้ความรู้สึก โดยในการเรียนแต่ละครั้งนักเรียนจะได้ฝึกฝนและพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง มีขั้นตอนการสอน 8 ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างประสบการณ์ (Creating experience)
1.ครูทักทายนักเรียน จากนั้น ครูแนะนำตัว พร้อมกับเขียนประโยคเป็นภาษาอังกฤษบนกระดาน แล้วสุ่มให้นักเรียนแนะนำตัวเองหลังจากนั้นครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกถามตอบกับเพื่อน โดยใช้โครงสร้างประโยคบนกระดาน
T: Good morning. My name’s _ (ชื่อครู) _ .What’s your name?
SS: My name’s ____.
2. ครูสุ่มถามข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนเพื่อทบทวนการถามตอบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนโดยใช้ประโยค
What’s your name? / How old are you?
Do you have any brother or sister?
3. เล่นเกมจับคู่คำศัพท์ โดยครูเรียงบัตรคำไว้บนกระดานแล้วให้นักเรียนช่วยกันจับคู่ เช่น
father - mother , brother – sister , uncle – aunt
ขั้นที่ 2 ขั้นวิเคราะห์ประสบการณ์ (Analyzing experience)
4. ครูนำคำศัพท์รูปภาพจากเกมทั้งหมดติดไว้บนกระดาน หลังจากนั้นครูอ่านออกเสียงคำศัพท์ แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครู
mother , father ,brother , sister , grandfather , grandmother , uncle ,aunt , niece , cousin ,
5. ครูชี้คำศัพท์รูปภาพแต่ละคำบนกระดานพร้อมตั้งคำถามโดยใช้ประโยค
T : What can you see in this picture?
SS : I can see a boy , a girl , a ….
T : Do you like this picture? Why?
SS : Yes. / No. I don’t like this picture.
ขั้นที่ 3 ขั้นปรับมวลประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด (Integrating reflection into concepts)
5.ครูนำเสนอคำศัพท์โดยการเสนอบัตรคำศัพท์หน้าชั้นเรียนจากตัวอย่างบทอ่านเรื่อง Keaw’s family tree(เหมือนในใบความรู้ที่ 1) โดยครูอ่านให้ฟัง 2 ครั้ง หลังจากนั้นให้นักเรียนอ่าน ตัวอย่างบทอ่านเรื่อง Keaw’s family tree(เหมือนในใบความรู้ที่ 1) อ่าน 1 ครั้งและสุ่มให้นักเรียนอ่านที่ละกลุ่ม (Group work) ทีละแถว ทีละคน (Individual work) อ่านให้ครูฟังและเพื่อนในชั้นฟัง
6. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าเมื่ออ่านใบความรู้ที่เป็นบทอ่านเรื่อง Keaw’s family tree จบแล้ว นักเรียนสามารถบอกได้ว่า ในบทอ่านมีใครบ้าง ช่วยกันค้นหาว่าสมาชิกในครอบครัวของ Keaw ว่ามีชื่ออะไรบ้าง ครูตั้งคำถามโดยใช้ประโยค
T : Whose family is it?
SS : The Kaew’s family.
T : Who are they?
SS : They are father and mother. / boy and girl. /brother / sister / father / mother / grandfather / grandmother /
aunt / cousin
7. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างคำถาม / คำตอบ เกี่ยวกับ Family Tree ของครอบครัว Keaw
ขั้นที่ 4 ขั้นพัฒนาความคิดด้วยข้อมูล (หาความรู้เพิ่มเติม) (Developing theories and concepts)
8. นักเรียนแต่ละคนแลกเปลี่ยนจับคู่กับเพื่อนเพื่อถาม/ตอบในใบความรู้ที่ 1 โดยครูให้ตัวอย่างการใช้ประโยคคำถาม / คำตอบ
คนที่ 1 : What can you see in this picture?
คนที่ 2 : I can see a boy, a girl, a ….
คนที่ 1 : This is brother? ( sister / father / mother / grandfather / grandmother / uncle / aunt / cousin)
คนที่ 2 : Yes / No
คนที่ 1 : What’s his / her name?
คนที่ 2 : His name is Pii korn.
9. ครูให้คำแนะนำถ้านักเรียนมีข้อผิดในการใช้ภาษา ศัพท์และสำนวน และให้นักเรียนแก้ไขโดยการเขียน คำถาม/คำตอบ ที่ใช้ในการถาม/ตอบจากการสนทนา

ขั้นที่ 5 ขั้นทำตามแนวคิดที่กำหนด (Working on defined concepts)
10. นักเรียนแต่ละคนวาดรูปและเขียน Family Tree ของครอบครัวตัวเองในใบงานที่ 1A (Worksheet 1 A) งานเดี่ยว (Individual work)
ขั้นที่ 6 ขั้นบูรณาการแนวคิด (Messing around)
11. ครูให้นักเรียนแลกเปลี่ยนจับคู่กับเพื่อนเพื่อถาม /ตอบ ดังตัวอย่างที่ได้ฝึกในขั้นที่ 4 (โดยในขณะที่ถาม/ตอบจะต้องแสดง Family Tree ให้เพื่อนๆ ในชั้นดู)
ขั้นที่ 7 ขั้นวิเคราะห์ผลและนำแนวคิดไปใช้ (Analyzing their own application of concepts for usefulness)
12. ครูแจกใบงาน ใบงานที่ 2A (Worksheet 2A) เป็นงานกลุ่ม (Group work) และมอบหมายให้ นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันอภิปราย สรุปบทอ่าน แล้วช่วยกันต่อเติมข้อมูลให้สมบูรณ์ลงในใบงานที่เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น ครูจะช่วยให้คำแนะนำให้ถูกต้อง จากนั้นให้นักเรียนทำในใบงานที่ 3A (Worksheet 3A) งานเดี่ยว (Individual work) ทบทวนสิ่งที่เรียนมา
ขั้นที่ 8 ขั้นนำแนวคิดไปปฏิบัติและแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่น (Do it themselves and sharing what they do with others)
13. ครูนำผลงานของนักเรียนแต่ละคนที่ออกแบบในการเขียนในใบงานที่ 1A (Worksheet 1A) มาจัด Board หน้าห้องเรียน
5. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. ภาพแผนภูมิครอบครัว Family‘s tree ของครอบครัว Keaw 3. บัตรคำศัพท์รูปภาพ
2. แถบโครงสร้างประโยคต่าง ๆ 4. ใบงาน
6. การวัดและประเมินผล
1. วิธีการวัดและประเมินผล
- ตรวจใบงาน
2. เครื่องมือวัดผลและประเมินผล
- ใบงาน
3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล
- การตรวจใบงาน

7.บันทึกผลหลังการสอน
....................................................................
....................................................................
....................................................................
ลงชื่อ.............................................ผู้สอน
( นางสาวรัชฎาภรณ์ พานจันทร์ )
________/________/________














ชุดคำถาม หมวดรู้ไว้ใช่ว่า ...

1.การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยดจะแก้เผ็ดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิกริยาโดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป

2.ดูดนมยางของเด็กทารกตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง การคาบหรืออมนายางของเด็กทารกไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดานไม่กระเทือนสั่นไหวขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรน และไม่นอนอ้าปากอีกด้วย

3.การสูดกลิ่นตัวผู้ชายทำให้หายเครียดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคนรักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขา เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลดอาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้

4.แอปเปิ้ลผลิตกระแสไฟฟ้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่นทองแดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็นเหมือนแบตเตอรี่ ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรป ฟรุ๊ต หรือมันฝรั่ง ก็ทำได้เช่นกัน

5.ปัสสาวะมนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึงเป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์

6.วัวกระทิงเกลียดสีแดง จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้น เป็นเพราะความรำคาญ และเพราะถูกยั่วยุมากกว่า

7.เพชรแท้จะไม่ติดสีหมึก จริงหรือ
เฉลย
จริง การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้ายน้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชร แสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชรเทียม

8.การทะเลาะกันทำให้แผลหายช้า จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ดเลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลง ทำให้บาดแผลต่างๆ หายช้า

9.แสงแดดอ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึมเซา ได้

10.การฟังเพลงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การฟังเพลงทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และบรรเทาอาการปวดข้อลงได้
ชุดคำถามหมวดความสวยความงาม

1.กินหวานมากทำให้ผิวเหี่ยว จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว ทำให้เกิดภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และเหี่ยวย่นในที่สุด

2.การยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะปลายนิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิตบริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น

3.เอาน้ำแข็งถูหน้าก่อนนอนจะทำให้หายมันได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะแห้งไปเองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะหาย

4.การสวมเสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้เหงื่อออกเยอะๆ จะทำให้ผอมเร็วจริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง การที่เหงื่อออกเยอะคือ ภาวะที่ร่างกายโดนความร้อนแล้วระบายความร้อนออกมา ไม่ใช่การเผาผลาญไขมันออกมา เพราะฉะนั้นพอเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะเท่าเดิม

5.คนผิวแห้งมีโอกาสเกิดริ้วรอยกว่าคนผิวมัน จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะคนผิวแห้งขาด ซีบัม หรือสารไขมัน ทำให้กลไกลการปกป้องตนเองของผิวหนังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นคนผิวแห้งควรดูแล และทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่นแก่ผิวพิเศษกว่าคนผิวมัน

6.การฝึกกลั้นหายใจสามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึงหายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้

7.การร้องไห้ช่วยลดความอ้วนได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การหัวเราะต่างหากที่ช่วยเผาผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวันละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มากถึง 50 แคลอรี

8.กาวตราช้างใช้รักษาส้นเท้าแตกได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อปิดหนังที่แตกด้วยกาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อมแซมตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออกไป แต่ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง

9.การเต้นรำทำให้ผิวสวยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การเต้นรำเพียงวันละ 20 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพดี

10.การใส่กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะเมื่อผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์ขึ้นจนทำให้ขาใหญ่ ถ้าหากจำเป็นต้องใส่กระโปรงสั้นจริงๆ ควรใส่ถุงน่องเพื่อเพิ่มความอบอุ่น


เพลงน่าฟัง